This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มะเร็งตับ

มะเร็งตับ

       สวัสดีครับท่านผู้ติดตาม blog มะเร็งมดลูกทุกๆท่าน วันนี้ทางทีมงานมะเร็งมดลูก มีบทความสุขภาพ เกี่ยวกับมะเร็งตับมาฝากกันครับ ถ้าพูดถึงมะเร็งตับแล้วหลายๆท่านคงคุ้นหูกันดีกับชื่อนี้ ขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่าทางทีมงานมะเร็งมดลูก จะพยายามเสาะแสวงหาข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งต่างๆ ระยะมะเร็ง รวมถึง วิธีการรักษามะเร็ง และ พืชสมุนไพรรักษามะเร็ง มาฝากให้ได้ศึกษาและนำไปเป็นข้อมูลเพิ่มเติมในการปฏิบัติตัวอย่างไรให้พ้นจากการเป็นมะเร็งต่างๆ ครับ วันนี้เช่นเคยครับกับ มะเร็งที่มี ชื่อว่า มะเร็งตับ
        มะเร็งตับ พบมากเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ และพบในเพศชายมากกว่าเพศ หญิง ถึง 2 เท่าขึ้นไปโดย
        มะเร็งตับ พบมากในประเทศไทย มี
2 ชนิด คือ โรคมะเร็งของเซลล์ตับ และโรคมะเร็งท่อน้ำดีตับ โรคมะเร็งท่อน้ำดีตับ พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ส่วนการรักษาโรคมะเร็งตับยังไม่ได้ผลเท่าที่ควรมีอัตราการอยู่รอดต่ำมากครับท่านผู้ อ่าน ทราบอย่างนี้แล้ว ก็ระวังกันด้วยนะครับผม
        สาเหตุการเกิดมะเร็งตับ
       
1. การเป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบชนิดบี เป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดในการเกิดโรคมะเร็งเซลล์ตับในคนไทย
       
2. โรคมะเร็งท่อน้ำดีตับ เกิดเนื่องจากพยาธิใบไม้ตับ เป็นสาเหตุสำคัญร่วมกับการรับประทานอาหารที่มีดินประสิว(ไนเตรท) และไนไตรท์ เช่นปราร้า ปลาจ่อม ปลาส้ม แหนม ไส้กรอก เบคอน ฯลฯ
       
3. การดื่มสุราเป็นประจำ
       
4. สารพิษอัฟลาทอกซิลซึ่งเกิดจากเชื้อราบางชนิดพบในอาหารประเภทถั่ว ข้าวโพด พริกแห้ง เป็นสาเหตุสำคัญในการทำให้เกิดโรคมะเร็งตับในประเทศจีน และ อาฟริกา
       
5. ไวรัสตับอักเสบบี ชนิดซี เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของการเกิดโรคมะเร็งตับในประเทศญี่ปุ่น ยุโรป และบางส่วนของประเทศไทย
        อาการของมะเร็งตับ
       
1. เริ่มต้นด้วยอาการเบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องผูก
       
2. อ่อนเพลีย น้ำหนักลด และมีไข้ต่ำๆ
       
3. ปวดหรือเสียชายโครงด้านขวา อาจคลำก้อนได้
       
4. ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโต และบวมบริเวณขา ทั้ง 2 ข้าง
        การวินิจฉัย
       
การตรวจและการรักษาโรคมะเร็งตับ ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจะได้ผลทันที การวินิฉัยได้แก่
       
1. การตรวจหาระดับแอลฟาฟีโตโปรตีนในเลือด
       
2. การใช้เครื่องมือพิเศษได้แก่ เครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องแสดงภาพอวัยวะด้วยรังสีไอโซโทป และเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์
       
3. การดูลักษณะของเซลล์ด้วยการเจาะเอาเนื้อตับมาตรวจ เพื่อวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา
        การรักษา
       
1. โดยการผ่านตัด
       
2. การฉีดยาเข้าก้อนมะเร็งโดยตรง ในมะเร็งระยะเริ่มแรก
 
       3. การฉีดยาเคมี หรือสารอุดตันเข้าเส้นเลือดแดง ที่หล่อเลี้ยงก้อนมะเร็ง
       
4. การใช้ยาเคมีส่วนใหญ่รักษาเพื่อการบรรเทาอาการ
        การป้องกัน
       
1. ให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบ ชนิดบีในเด็กแรกเกิดทุกคน
       
2. ป้องกันและรักษาโรคพยาธิใบไม้ตับ
       
3. ปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพ
       
4. รับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ
       
5. รับประทานผัก ผลไม้สด เป็นประจำ
       
6. หลีกเลี่ยง อาหารที่มีสานก่อมะเร็ง ได้แก่ อาหารที่มีราขึ้น อาหารใส่ดินประสิว และไนไตรท์ เช่น ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาส้ม แหนม ไส้กรอก เบคอน อาหารหมักดอง  เค็มจัด เผ็ดจัด เนื้อสัตว์รมควัน ปิ้ง ย่าง ทอดจนไหม้เกรียม ไม่ รับประทานอาหารปลาดิบๆ สุกๆ เช่นปลาขาว ปราตะเพียน ปลาแม่สะแด้ง
       
7. เลิกสูบบุหรี่
       
8. เลิกดื่มสุรา
       
9. ลดความเครียด และออกกำลังกายเป็นประจำ
        สิ่งผิดปกติที่ควรปรึกษาแพทย์
       
1. ผู้ที่เป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบชนิดบี หรือเป็นโรคตับแข็ง
       
2. เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ
       
3. เบื่ออาหารโดยไม่มีสาเหตุ
       
4. แน่นท้อง ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อเป็นประจำ
       
5. อ่อนเพลีย น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว
       
6. มีไข้ต่ำๆ เป็นประจำ
       
7. ปวดหรือเสียดชายโครงด้านขวา หรือคลำพบก้อนในช่องท้อง
หัวข้ออื่นๆที่เกี่ยวข้อง
มะเร็งมดลูก,มะเร็งปากมดลูก,อาการมะเร็งมดลูก,ระยะมะเร็ง,วิธีรักษามะเร็ง,มะเร็งต่างๆ,สมุนไพรรักษามะเร็ง,อาหารต้านมะเร็ง

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ผักชีต้นจิ๋ว ต้านมะเร็งต่างๆ

ผักชีต้นจิ๋ว ต้านมะเร็งต่างๆ

สวัสดีครับมิตรรักแฟนคลับ ทีมงาน มะเร็งมดลูก ทุกๆท่าน วันนี้ทางทีมงาน มะเร็งมดลูกมี บทความสุขภาพ เกี่ยวกับ ผักชีต้นจิ๋วมาฝากกันครับผม
       ผักชี นี่ถือว่าเป็นผักพื้นบ้านของคนไทยเราเลยก็ว่าได้ครับ เพราะแทบๆทุกๆกิจกรรมด้านอาหารต้องมีผักชีมาร่วมด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นอาหารหวาน อาหารคาว  แต่ใครจะรู้ว่าผักชี นี้มีประโยชน์เหลือหลาย เช่นทางด้านสมุนไพรที่คนทั่วโลกใช้ผักชีกัน เพื่อเป็นยา โดยเจ้าผักชี มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ คือ
Coriandrum sativum l. และ ชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Chinese Parsley หรือ Cilantro
       อายุรเวชโบราณจัดให้ผักชีเป็น ยาสมุนไพร ธาตุเย็น ใช้แก้และป้องกันโรค ธาตุพิการ อาหารไม่ย่อย แก้ไข้ ขับลม ขับเหงื่อ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบำรุงกระเพาะอาหาร และแก้โรคข้ออักเสบ
       ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของสมุนไพรและตำรับยา คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า วิตามินซี ฟอสฟอรัส ใยอาหาร และเบต้าแคโรทีน ที่อยู่ในผักชีช่วยบำรุงเซลล์ให้แข็งแรง กระตุ้นการทำงานของเอนไซต์เพื่อต้านฟรีแรดิคัลและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งจะป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่างๆได้

       หากกินผักชีได้วันละ 3-5 ต้น หรือประมาณ 150-250 กรัม จะได้รับวิตามินซี ในบริการที่ร่างกายต้องการอย่างเพียงพอด้วยครับผม ผักชีต้านจิ๋ว แต่อุดมด้วยประโยชน์สูงสุด ถ้าคิดจะเริ่มปลูกเพื่อรับประทานกันเอง ต้องระวังในสิ่งเหล่านี้ด้วยครับผม
       ผักชีเป็นพืชที่ชอบอากาศเย็น  ควรปลูกในที่ไม่ร้อนจัด ใช้ผักชีโดนแสงในช่วงเช้าพอประมาณ
       ห้ามใช้เมล็ดผักชีเก่า แห้งเปราะ และมีฝุ่นผงปนอยู่ ควรซื้อเมล็ดพันธุ์แบบตัดแบ่งขายจากร้านค้าเกษตรภัณฑ์ สังเกตเมล็ดลักษณะเต็มแน่น สีไม่ซีดจาง
       ศัตรูของพืชผักชีนี้ คือเพลี้ยอ่อน วิธีกำจัดเพลี้ย โดยบดพริกแห้ง
100 กรัม ให้ละเอียดผสมน้ำ 1 ลิตร ทิ้งไว้ 1 วันกรองแต่น้ำนำมาผสมน้ำสบู่อัตราส่วน 5 ต่อ 1 นำไปฉีดพ่นทักๆ  7 วัน ปฏิบัติเพียงเท่านี้เราก็จะมีมะเร็งไว้รับประทานเพื่อป้องกันมะเร็งต่างๆ ครับผม