วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รู้จักมะเร็งมดลูก กันไหมเอ่ย ?

ภาพตัวอย่างมะเร็งมดลูก


สวัสดีครับ พี่น้องผู้อ่านผู้ฟังทุกท่าน วันนี้ขอประเดิมบทความแรกของ Blog นี้ด้วยเรื่องเกี่ยวกับมะเร็งมดลูก เผอิญโดยส่วน

ตัวผู้เขียน Blog ได้มีโอกาส รับรู้รับฟังเกี่ยวกับตัวมะเร็งมดลูกมาบ้างและได้มีโอกาศได้สัมผัสกับกลุ่มคนป่วยที่เป็นมะเร็งมดลูกมาแล้วด้วย ทำให้รู้สึกว่า ประชากรบ้านเมืองเราไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับเจ้าโรคนี้เท่าไหร่ ซึ่งก็อดห่วงไมได้ครับว่าอนาคต จะเป็นอย่างไร มาดูกันครับว่าเราๆท่านๆรู้จักเจ้าโรค มะเร็งมดลูก หรือเรียกๆกันว่า มะเร็งปากมดลูก กันมากเท่าไหร่
ซึ่งถ้าหากพูดถึงโรคมะเร็งปากมดลูกท่านผู้อ่านคงรู้จักกันดีเลยเคยได้ยิน ซึ่งข่าวเกี่ยวกับมะเร็งมีออกข่าวออกสื่อให้เราได้พบเห็นทุกวันซึ่งคงจำกันได้ข่าวเมื่อไม่นานมานี้ ที่นางเอกฮอลลีวู๊ดชื่อดังเป็นมะเร็งเช่นกันแต่เป็นคนละอวัยวะกับทางทีมงานบทความสุขภาพจะได้นำเสนอในวันนี้ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ วันนี้ทางทีมงานบทความสุขภาพ อยากนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ การป้องกันมะเร็งปากมดลูกครับ ผมเชื่อว่าหลายๆท่านคงสงสัยว่า เจ้ามะเร็งปากมดลูกนี้สามารถป้องกันได้หรือไม่ หลังจากสงสัยและได้หาข้อมูลอยู่ระยะหนึ่งก็พบจากหลายๆสื่อหลายบทความ สรุปว่า มะเร็งปากมดลูกป้องกันได้โดยการตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูกซึ่งจะต้องตรวจติดตามอย่างต่อเนื่องสำหรับเพศหญิงอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป สบายใจกันไปนิดหนึ่งใช่ไหมคับอย่างน้อยเราก็รู้ว่าป้องกันได้แน่นอน (ฝากนิดหนึ่งครับ สำหรับสาวๆ 35 ปีขึ้นไปสามารถติดต่อขอตรวจความผิดปกติของปากมดลูกได้ที่ รพ.สต. และ รพ. ใกล้บ้านท่านได้ครับ ไม่ต้องอายครับ)
        มาดูสาเหตุกันครับว่าเจ้ามะเร็งปากมดลูกเกิดขึ้นได้อย่างไร เจ้ามะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อ HPV ครับ จากการมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสตรีที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย หรือมีคู่นอนหลายคน(ความคิดเห็นส่วนตัวผมว่าอนาคตข้างหน้าโรคนี้จะมีมากขึ้นครับด้วยสภาพแวดล้อมและสภาพสังคมเดียวนี้ วัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อยตามข่าวที่ได้เห็นกัน น่าเป็นห่วงจริงๆเล้ย) แต่ใช่ว่าคนที่ได้รับเชื้อ HPV แล้วจะเห็นอาการของโรคเลย โดยโรคนี้จะค่อยๆแสดงอาการโดยใช้เวลา 10-15 ปี โดยในช่วงเวลานี้เชื้อ HPV จะเริ่มเปลี่ยนแปลงมดลูกไปเรื่อย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าครับ สาเหตุหลักๆคงมีเพียงเท่านี้คับผม
        ต่อไปก็มาดูการตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูกและการรักษาความผิดปกติ
การตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูกนั้นมีหลายวิธีมากครับ วิธีที่ใช้กันมาตั้งแต่ดั้งเดิมคือ Pap smear ณ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ครับผม คือการนำเซลล์ของปากมดลูกไปตรวจย้อมเชื้อหาความผิดปกติของปากมดลูก เมื่อพบความผิดปกติก็จะแจ้งให้สตรีผู้นั้นทราบและให้มาตรวจปากมดลูกซ้ำ โดยการใช้น้ำส้มสายชู 3-5 เปอร์เซ็นต์ป้ายที่ปากมดลูก แล้วใช้กล้องส่องขยายจะเป็นความผิดปกติของปากมดลูกได้ชัดเจน และตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ  จึงจะนำไปรักษาความผิดปกติของของปากมดลูก โดยวิธีจี้เย็น หรือตัดปากมดลูกเป็นกรวย ตามแต่ขนาดของความผิดปกติที่ได้พบ การตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูก โดยวิธี Pap smear จะใช้เวลาค่อนข้างนานครับคือ 1-2 เดือน จึงจะทราบผล และใช้เวลาอีกกว่า 1-2 เดือน กว่าจะได้รับการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีที่อยู่ในชนบท ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และเสียเวลาในการทำมากิน
       
 การเตรียมตัวก่อนมาตรวจความผิดปกติของปากมดลูก
        1. หลังประจำเดือนหมด 7 วัน
        2 งดเหย็บยา 4-5 วัน
        3 งดมีเพศสัมพันธ์ 2-3 วัน
การปฏิบัติตัวหลังจากได้รับการจี้เย็น    
        1. จะมีตกขาวมากกว่าปกติ จนอาจต้องใช้ผ้าอนามัย เป็นเวลา 3-4 อาทิตย์
        2. งดการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
        3 ถ้ามีการปวดท้องน้อยให้รับประทานยาแก้ปวด
        4 ถ้ามีเลือดออกซึ่งไม่ใช่ประจำเดือน มีไข้ มีตกขาว มีกลิ่นหรือมีการปวด  ท้องน้อยมาก ให้รีบพบแพทย์เน้ออย่าปล่อยไว้ครับ
บุคคลที่ควรได้รับการตรวจ
        1 มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
        2 มีคู่นอนหลายคน
        3 แต่งงานแล้ว
        4 มีบุตรหลายคน
        5 สูบบุหรี่หรือมีคนใกล้ชิดสูบบุหรี่
        6 ไม่มีอาการผิดปกติ
        7 อายุ 30 ปีขึ้นไป

สุดท้ายหวังว่าบทความ แรกของ blog แห่งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านที่ได้หลงเข้ามาหนะครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น