This is default featured slide 1 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
This is default featured slide 2 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
This is default featured slide 3 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
This is default featured slide 4 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
This is default featured slide 5 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ระยะมะเร็ง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ระยะมะเร็ง แสดงบทความทั้งหมด
วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
ทุเรียนเทศ
วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
รู้จักกันไหม มะเร็งตับ
![]() |
มะเร็งตับ |
รู้จักกันไหม มะเร็งตับ
สวัสดีครับวันที่ 16 กรกฎาคม 2556 วันนี้หวยออกครับ ได้เลขอะไรเด็ดๆบ้างครับ แบ่งปันกันบ้างนะครับเลขเด็ดๆ วันนี้ทีมงานมะเร็งมดลูก มีบทความสุขภาพ ดีๆมาฝาก บทความสุขภาพ ที่ผ่านๆมาส่วนมากเล่าถึง มะเร็งมดลูกอย่างเดียววันนี้ เลยขอหยิบเรื่องราวเกี่ยวกับมะเร็งตับมาฝากครับผม ทั่วโลก จะพบมะเร็งตับ เป็นอันดับที่ 5 จากมะเร็งต่างๆที่มีและพบว่าสาเหตุการอันดับที่ 3 ของการตายด้วยโรคมะเร็ง ก็คือมะเร็งตับ
สำหรับประเทศไทย มะเร็งตับเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ1ในผู้ชาย และอันดับ3ในผู้หญิง รองจากมะเร็งปากมดลูกและ มะเร็งเต้านมตามลำดับ สามารถแบ่งชนิดของมะเร็งตับได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
สวัสดีครับวันที่ 16 กรกฎาคม 2556 วันนี้หวยออกครับ ได้เลขอะไรเด็ดๆบ้างครับ แบ่งปันกันบ้างนะครับเลขเด็ดๆ วันนี้ทีมงานมะเร็งมดลูก มีบทความสุขภาพ ดีๆมาฝาก บทความสุขภาพ ที่ผ่านๆมาส่วนมากเล่าถึง มะเร็งมดลูกอย่างเดียววันนี้ เลยขอหยิบเรื่องราวเกี่ยวกับมะเร็งตับมาฝากครับผม ทั่วโลก จะพบมะเร็งตับ เป็นอันดับที่ 5 จากมะเร็งต่างๆที่มีและพบว่าสาเหตุการอันดับที่ 3 ของการตายด้วยโรคมะเร็ง ก็คือมะเร็งตับ
สำหรับประเทศไทย มะเร็งตับเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ1ในผู้ชาย และอันดับ3ในผู้หญิง รองจากมะเร็งปากมดลูกและ มะเร็งเต้านมตามลำดับ สามารถแบ่งชนิดของมะเร็งตับได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
1.
ชนิดที่เกิดกับตับโดยตรง (มะเร็งปฐมภูมิ) ในประเทศไทยพบมากมี 2 ชนิดคือ
-
มะเร็งชนิดเซลล์ตับ เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุด มากกว่าร้อยละ 70-80 ของมะเร็งตับพบได้ทั่วทุกภาค
-
มะเร็งชนิดเซลล์ท่อน้ำดี เป็นมะเร็งที่พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พบประมาณร้อยละ 10-20%ของมะเร็งตับ
2.
ชนิดที่ลุกลามมาจากมะเร็งของอวัยวะอื่น (มะเร็งทุติยภูมิ)
มะเร็งที่เกิดในอวัยวะอื่นเมื่อถึงความรุนแรงระดับหนึ่งก็จะมีการกระจายมาตามหลอดเลือดหรือหลอดน้ำเหลือง
แล้วมาเจริญเติบโตอยู่ในตับ เช่น มะเร็งเต้านม
หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่กระจายไปยังตับ?
ในที่นี้จะกล่าวถึงมะเร็งตับปฐมภูมิชนิดที่เป็นมะเร็งเซลล์ตับเป็นหลัก
เพราะพบได้บ่อยกว่ามะเร็งตับปฐมภูมิชนิดอื่นๆ ?ดังนั้นคำว่ามะเร็งตับในที่นี้จึงหมายถึง ?มะเร็งเซลล์ตับ?
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งตับ
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งตับ
1 มากกว่าร้อยละ
90 ของโรคมะเร็งตับพบในผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยง? ซึ่งปัจจัยเสี่ยงได้แก่
2
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี? ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่พบได้บ่อยที่สุด
และพบว่าหากเป็นเรื้อรังจะมีอัตราการเกิดมะเร็งตับสูง
3ภาวะตับแข็ง? พบว่าผู้ป่วยมะเร็งตับมากกว่าร้อยละ
80 มีภาวะนี้ร่วมด้วย โดยสาเหตุที่นำไปสู่ภาวะตับแข็งได้แก่
การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์, ภาวะไขมันเกาะตับ,
การใช้ยาบางชนิด, สารเคมี, การติดเชื้อไวรัส เป็นต้น
4 การสูบบุหรี่
5 โรคอ้วน
หรือภาวะการขาดสารอาหาร
6 โรคเบาหวาน
7
การใช้สารสเตียรอยด์ หรือฮอร์โมนเพศชาย
8
การบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อนของสาร Aflatoxin ซึ่งผลิตจากเชื้อราในอาหารพวก
ข้าวโพด ถั่ว พริกแห้ง
สำหรับวันนี้ทีมงาน มะเร็งมดลูก นำฝากแค่นี้ก่อนครับ ส่วนบทความสุขภาพ ชุดหน้าจะสำเนื้อหาเกี่ยวกับมะเร็งตับ ในส่วน การรักษา และหัวข้ออื่นๆที่เกี่ยวข้องมาฝากคับ ผมขอบคุณบทความจาก คลับคนสู้มะเร็งด้วยครับผม
สำหรับวันนี้ทีมงาน มะเร็งมดลูก นำฝากแค่นี้ก่อนครับ ส่วนบทความสุขภาพ ชุดหน้าจะสำเนื้อหาเกี่ยวกับมะเร็งตับ ในส่วน การรักษา และหัวข้ออื่นๆที่เกี่ยวข้องมาฝากคับ ผมขอบคุณบทความจาก คลับคนสู้มะเร็งด้วยครับผม
วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556
รู้จักมะเร็งมดลูก กันไหมเอ่ย ?
![]() |
ภาพตัวอย่างมะเร็งมดลูก |
สวัสดีครับ
พี่น้องผู้อ่านผู้ฟังทุกท่าน วันนี้ขอประเดิมบทความแรกของ Blog นี้ด้วยเรื่องเกี่ยวกับมะเร็งมดลูก
เผอิญโดยส่วน
ตัวผู้เขียน Blog ได้มีโอกาส
รับรู้รับฟังเกี่ยวกับตัวมะเร็งมดลูกมาบ้างและได้มีโอกาศได้สัมผัสกับกลุ่มคนป่วยที่เป็นมะเร็งมดลูกมาแล้วด้วย
ทำให้รู้สึกว่า ประชากรบ้านเมืองเราไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับเจ้าโรคนี้เท่าไหร่
ซึ่งก็อดห่วงไมได้ครับว่าอนาคต จะเป็นอย่างไร
มาดูกันครับว่าเราๆท่านๆรู้จักเจ้าโรค มะเร็งมดลูก หรือเรียกๆกันว่า มะเร็งปากมดลูก กันมากเท่าไหร่
ซึ่งถ้าหากพูดถึงโรคมะเร็งปากมดลูกท่านผู้อ่านคงรู้จักกันดีเลยเคยได้ยิน
ซึ่งข่าวเกี่ยวกับมะเร็งมีออกข่าวออกสื่อให้เราได้พบเห็นทุกวันซึ่งคงจำกันได้ข่าวเมื่อไม่นานมานี้
ที่นางเอกฮอลลีวู๊ดชื่อดังเป็นมะเร็งเช่นกันแต่เป็นคนละอวัยวะกับทางทีมงานบทความสุขภาพจะได้นำเสนอในวันนี้
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ วันนี้ทางทีมงานบทความสุขภาพ
อยากนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ การป้องกันมะเร็งปากมดลูกครับ
ผมเชื่อว่าหลายๆท่านคงสงสัยว่า เจ้ามะเร็งปากมดลูกนี้สามารถป้องกันได้หรือไม่
หลังจากสงสัยและได้หาข้อมูลอยู่ระยะหนึ่งก็พบจากหลายๆสื่อหลายบทความ สรุปว่า มะเร็งปากมดลูกป้องกันได้โดยการตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูกซึ่งจะต้องตรวจติดตามอย่างต่อเนื่องสำหรับเพศหญิงอายุตั้งแต่
35 ปีขึ้นไป
สบายใจกันไปนิดหนึ่งใช่ไหมคับอย่างน้อยเราก็รู้ว่าป้องกันได้แน่นอน
(ฝากนิดหนึ่งครับ สำหรับสาวๆ 35 ปีขึ้นไปสามารถติดต่อขอตรวจความผิดปกติของปากมดลูกได้ที่
รพ.สต. และ รพ. ใกล้บ้านท่านได้ครับ ไม่ต้องอายครับ)
มาดูสาเหตุกันครับว่าเจ้ามะเร็งปากมดลูกเกิดขึ้นได้อย่างไร
เจ้ามะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อ HPV ครับ จากการมีเพศสัมพันธ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสตรีที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
หรือมีคู่นอนหลายคน(ความคิดเห็นส่วนตัวผมว่าอนาคตข้างหน้าโรคนี้จะมีมากขึ้นครับด้วยสภาพแวดล้อมและสภาพสังคมเดียวนี้
วัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อยตามข่าวที่ได้เห็นกัน น่าเป็นห่วงจริงๆเล้ย)
แต่ใช่ว่าคนที่ได้รับเชื้อ HPV แล้วจะเห็นอาการของโรคเลย
โดยโรคนี้จะค่อยๆแสดงอาการโดยใช้เวลา 10-15 ปี
โดยในช่วงเวลานี้เชื้อ HPV จะเริ่มเปลี่ยนแปลงมดลูกไปเรื่อย
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าครับ สาเหตุหลักๆคงมีเพียงเท่านี้คับผม
ต่อไปก็มาดูการตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูกและการรักษาความผิดปกติ
การตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูกนั้นมีหลายวิธีมากครับ
วิธีที่ใช้กันมาตั้งแต่ดั้งเดิมคือ Pap smear ณ
ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ครับผม คือการนำเซลล์ของปากมดลูกไปตรวจย้อมเชื้อหาความผิดปกติของปากมดลูก
เมื่อพบความผิดปกติก็จะแจ้งให้สตรีผู้นั้นทราบและให้มาตรวจปากมดลูกซ้ำ
โดยการใช้น้ำส้มสายชู 3-5 เปอร์เซ็นต์ป้ายที่ปากมดลูก
แล้วใช้กล้องส่องขยายจะเป็นความผิดปกติของปากมดลูกได้ชัดเจน และตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ
จึงจะนำไปรักษาความผิดปกติของของปากมดลูก โดยวิธีจี้เย็น
หรือตัดปากมดลูกเป็นกรวย ตามแต่ขนาดของความผิดปกติที่ได้พบ
การตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูก โดยวิธี Pap smear จะใช้เวลาค่อนข้างนานครับคือ
1-2 เดือน จึงจะทราบผล และใช้เวลาอีกกว่า 1-2 เดือน กว่าจะได้รับการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีที่อยู่ในชนบท ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
และเสียเวลาในการทำมากิน
การเตรียมตัวก่อนมาตรวจความผิดปกติของปากมดลูก
1. หลังประจำเดือนหมด 7 วัน
2 งดเหย็บยา 4-5 วัน
3 งดมีเพศสัมพันธ์ 2-3 วัน
การปฏิบัติตัวหลังจากได้รับการจี้เย็น
1.
จะมีตกขาวมากกว่าปกติ จนอาจต้องใช้ผ้าอนามัย เป็นเวลา 3-4 อาทิตย์
2.
งดการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
3
ถ้ามีการปวดท้องน้อยให้รับประทานยาแก้ปวด
4
ถ้ามีเลือดออกซึ่งไม่ใช่ประจำเดือน มีไข้ มีตกขาว
มีกลิ่นหรือมีการปวด ท้องน้อยมาก
ให้รีบพบแพทย์เน้ออย่าปล่อยไว้ครับ
บุคคลที่ควรได้รับการตรวจ
1
มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
2
มีคู่นอนหลายคน
3
แต่งงานแล้ว
4
มีบุตรหลายคน
5
สูบบุหรี่หรือมีคนใกล้ชิดสูบบุหรี่
6
ไม่มีอาการผิดปกติ
7
อายุ 30 ปีขึ้นไป
สุดท้ายหวังว่าบทความ แรกของ blog แห่งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านที่ได้หลงเข้ามาหนะครับ
มาดูสาเหตุกันครับว่าเจ้ามะเร็งปากมดลูกเกิดขึ้นได้อย่างไร เจ้ามะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อ HPV ครับ จากการมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสตรีที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย หรือมีคู่นอนหลายคน(ความคิดเห็นส่วนตัวผมว่าอนาคตข้างหน้าโรคนี้จะมีมากขึ้นครับด้วยสภาพแวดล้อมและสภาพสังคมเดียวนี้ วัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อยตามข่าวที่ได้เห็นกัน น่าเป็นห่วงจริงๆเล้ย) แต่ใช่ว่าคนที่ได้รับเชื้อ HPV แล้วจะเห็นอาการของโรคเลย โดยโรคนี้จะค่อยๆแสดงอาการโดยใช้เวลา 10-15 ปี โดยในช่วงเวลานี้เชื้อ HPV จะเริ่มเปลี่ยนแปลงมดลูกไปเรื่อย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าครับ สาเหตุหลักๆคงมีเพียงเท่านี้คับผม
ต่อไปก็มาดูการตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูกและการรักษาความผิดปกติ
การตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูกนั้นมีหลายวิธีมากครับ วิธีที่ใช้กันมาตั้งแต่ดั้งเดิมคือ Pap smear ณ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ครับผม คือการนำเซลล์ของปากมดลูกไปตรวจย้อมเชื้อหาความผิดปกติของปากมดลูก เมื่อพบความผิดปกติก็จะแจ้งให้สตรีผู้นั้นทราบและให้มาตรวจปากมดลูกซ้ำ โดยการใช้น้ำส้มสายชู 3-5 เปอร์เซ็นต์ป้ายที่ปากมดลูก แล้วใช้กล้องส่องขยายจะเป็นความผิดปกติของปากมดลูกได้ชัดเจน และตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ จึงจะนำไปรักษาความผิดปกติของของปากมดลูก โดยวิธีจี้เย็น หรือตัดปากมดลูกเป็นกรวย ตามแต่ขนาดของความผิดปกติที่ได้พบ การตรวจหาความผิดปกติของปากมดลูก โดยวิธี Pap smear จะใช้เวลาค่อนข้างนานครับคือ 1-2 เดือน จึงจะทราบผล และใช้เวลาอีกกว่า 1-2 เดือน กว่าจะได้รับการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีที่อยู่ในชนบท ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และเสียเวลาในการทำมากิน
1. หลังประจำเดือนหมด 7 วัน
2 งดเหย็บยา 4-5 วัน
3 งดมีเพศสัมพันธ์ 2-3 วัน
การปฏิบัติตัวหลังจากได้รับการจี้เย็น
1. จะมีตกขาวมากกว่าปกติ จนอาจต้องใช้ผ้าอนามัย เป็นเวลา 3-4 อาทิตย์
2. งดการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
3 ถ้ามีการปวดท้องน้อยให้รับประทานยาแก้ปวด
4 ถ้ามีเลือดออกซึ่งไม่ใช่ประจำเดือน มีไข้ มีตกขาว มีกลิ่นหรือมีการปวด ท้องน้อยมาก ให้รีบพบแพทย์เน้ออย่าปล่อยไว้ครับ
บุคคลที่ควรได้รับการตรวจ
1 มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
2 มีคู่นอนหลายคน
3 แต่งงานแล้ว
4 มีบุตรหลายคน
5 สูบบุหรี่หรือมีคนใกล้ชิดสูบบุหรี่
6 ไม่มีอาการผิดปกติ
7 อายุ 30 ปีขึ้นไป
สุดท้ายหวังว่าบทความ แรกของ blog แห่งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านที่ได้หลงเข้ามาหนะครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)