วิตามินซี กับ มะเร็งมดลูกและมะเร็งต่างๆ
วิตามินซี กับมะเร็งมดลูก และมะเร็งต่างๆ |
สวัสดีครับ
ครับผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ มะเร็งมดลูก
(นามปากกาใหม่) ต้องเดินทางแต่เช้าเพื่อไปเรียนกับแม่บ้านที่ ม.ราชภัฎสุรินทร์
ตื่นเช้าก็ไม่มีอะไรมากมายเตรียม ชงนมไว้ให้ลูกสาวคนเดียว เพราะอีกซักพัก
ย่าจะมารับเจ้าตัวเล็กไปเลี้ยงที่บ้าน วันนี้แม่บ้านมีเรียน แปดโมงกว่าๆ
แต่ก็ไปสายได้(หรือเปล่า)หลังจากจัดแจงเตรียมข้าวของให้เจ้าตัวเล็กเสร็จก็ออกเดินทางไปเรียนกับแม่บ้าน(แม่บ้านขับรถให้นั่งครับผมขับไม่เก่งเวลาไปไหนมาไหนแม่บ้านขับอย่างเดียวครับ)
ถึงที่เรียนประมาณเก้าโมงกว่าๆสายเกือบสองชั่วโมงแนะหลังจากสั่งแม่บ้านเข้าห้องเรียนเสร็จผมก็ปลีกตัวมารอแม่บ้านอยู่ห้องสมุด
คณะวิทยาศาสตร์ฯ อาคาร 29 ครับ
นั่งรอให้ห้องสมุดเลยเป็นที่ไปที่มาของบทความนี้ครับ
เล่าซะยาวเลยผมแทบไม่เกี่ยวกับ เจ้าตัววิตามินซี มะเร็งมดลูก และมะเร็งต่างๆเลยครับ
เอาเป็นว่าบทความวันนี้ มะเร็งมดลูกขอพูดถึงเจ้าตัว
วิตามิซี หละกันครับ
ผมคิดว่าหลายๆท่านคงเคยได้ยิน
ชื่อนี้มานานและคงได้กินกันมามากมายเพราะว่าเจ้าตัววิตามินซีนี้
มีขายตามร้านทั่วไปแม้กระทั่งร้านขนมก็ยังเอามาใส่ซองขายเลย
รสชาติๆเปรี้ยวๆอร่อยดีครับ ลูกสาวผมชอบกินมากๆ และอีกอย่างวิตามินซี
ก็มีอยู่ในจำพวกอาหารรสเปรี้ยวเช่น ส้ม พวกนี้ครับ คนส่วนมากจะคิดว่าวิตามินซี ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
แต่หารู้ไม่ว่าเจ้าตัววิตามินซีนี้ เปรียบเสมือน ยารักษาโรคมะเร็ง ไม่จะเป็นมะเร็งมดลูกและมะเร็งต่างๆอีกด้วย
ในบางครั้งเอาอาจเรียกผักผลไม้ที่มีวิตามินซีอยู่ว่าเป็น สมุนไพรรักษามะเร็ง
หรือจะเรียกว่าอาหารต้านมะเร็งก็ได้อันนี้ไว้
ทีมงานมะเร็งมดลูกจะหาข้อมูลหรือบทวิจัยมาอ้างอิงให้หนะครับผม
ขอออกตัวก่อนหนะครับว่าบทความชุดนี้ผมขออ้างอิงจากแผ่นพับที่ได้จากร้านขายยาแถวที่พัก
สิ่งแรกที่อยากให้รู้ก่อนเลยคือ
วิตามินซี
คืออะไร วิตามินซี คือวิตามินที่ละลายในน้ำ
นอกจากนี้วิตามินซี ยังรู้จักในชื่อของ แอสคอร์บิค แอซิด อีกด้วย มนุษย์ ไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีได้เองนะครับ ดังนั้นการที่เราจะได้รับเจ้าวิตามินซี
จากการรับประทานเท่านั้นครับผม ปริมาณของวิตามินซี
ในอาหารยังลดลงได้เมื่อถูกความร้อน และเมื่อถูกเก็บไว้นานๆ (สำคัญเลยนะครับข้อนี้
ดังนั้นในอาหารที่ถูกปรุงด้วยความร้อนจะไม่มีวิตามินซีหลงเหลืออยู่แน่นอนเลยครับผม)
· มีความจำเป็นต่อขบวนการสังเคราะห์คอลลาเจน
ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของหลอดเลือด เส้นเอ็น เอ็นยึด และกระดูก
· มีความจำเป็นต่อการสังเคราะห์สารสื่อสัญญาณประสาท
และ สารสื่อสัญญาณประสาทมีความจำเป็นต่อการทำงานของสมองซึ่งส่งผลต่ออารมณ์ด้วย
ครับ
· มีความจำเป็นต่อการสังเคราะห์ไทรอยด์ฮอร์โมน
· มีความจำเป็นต่อการสังเคราะห์สารคาร์นิทีนซึ่งเป็นสาระสำคัญในการเปลี่ยนแปลงไขมันไปเป็นพลังงาน
· ช่วยให้ระบบภูมิต้านทานเป็นปกติ
· เป็นสารต้านออกซิเดชั่น
ที่แรงตัวหนึ่ง ป้องกันโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และสารพันธุกรรม เช่น Dna
แล Rna จากการถูกทำลายของอนุมุลอิสระที่เกิดจากการเผาผลาญภายในร่างกาย
และจากภายนอก เช่น มลภาวะและการสูบบุหรี่ นอกจากนี้วิตามินซี
ยังสามารถกระตุ้นให้สารต้านออกซิเดชั่นอื่นกลับมาใช้ใหม่ได้อีก เช่นวิตามิน อี
เป็นต้น
การใช้และประโยชน์ต่อสุขภาพในการใช้วิตามินซี
โรคลักปิดลักเปิด (เลือดออกตามไรฟัน) โดยเจ้าโรคนี้จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะขาดวิตามินซี นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เป็นจ้ำเขียวตามตัว ผมร่วง ฟันหลุดง่าย ปวดข้อ และบวม ซึ่งการป้องกันสามารถทำได้โดยการรับประทานวิตามินซี อย่างน้อยวันละ 10 มิลลิกรัม
โรคลักปิดลักเปิด (เลือดออกตามไรฟัน) โดยเจ้าโรคนี้จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะขาดวิตามินซี นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เป็นจ้ำเขียวตามตัว ผมร่วง ฟันหลุดง่าย ปวดข้อ และบวม ซึ่งการป้องกันสามารถทำได้โดยการรับประทานวิตามินซี อย่างน้อยวันละ 10 มิลลิกรัม
ไข้หวัดธรรมดา การรับประทานวิตามินซี
ในขนาดสูงคือ 1-3 กรับทุกวัน
สามารถช่วยลดความรุนแรงและช่วงเวลาของการเกิดหวัดได้
หัวใจและหลอดเลือด วิตามินซี
ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด
จากการศึกษา หลังจากติดตามผลจากผู้หญิง 85000 คนเป็นเวลากว่า
16 ปี พบว่าการรับประทานวิตามินซีในขนาดสูงสามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้การรับประทานวิตามินซีมากกว่า
359 mg ต่อวัน
จากอาหารและการเสริมสร้างด้วยผลิตภัณฑ์วิตามินซี ช่วยลดการเกิดโรคหัวใจลงได้ 27-28
% และจากการศึกษา
ยังพบอีกว่าการรับประทานวิตามินซี
ขนาด 300 mg ทุกวัน
สามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจในผู้ชายได้
42% และในผู้หญิง 25%
สุดท้ายมาถึงหัวข้อสำคัญสำหรับ
บทความนี้แล้วครับ เบื่อกันหรือยังครับอ่านมาตั้งเยอะ มาดูกันครบว่าตัววิตามินซี
จะมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่างๆได้อย่างไรครับ
ตัววิตามินซี สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรค มะเร็งบางชนิดได้
ซึ่งมีหลักฐานจากการรับประทานวิตามินซี จากธรรมชาติ ซึ่งยังไม่เป็นที่สรุปว่าวิตามินซี
สามารถใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง
จากการศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานวิตามินซี 200 mg ทุกวันจากผักผลไม้ ช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคมะเร็งในช่องปาก มะเร็งทางเดินอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ และ มะเร็งปอด ได้ ซึ่ง ณ
ตอนนี้ยังไม่พบการวิจัยว่าตัววิตามินซี สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งมดลูกได้ (เดียวยังไงทางทีมงานมะเร็งมดลูก
จะพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับวิตามินซี กับ มะเร็งมดลูกมาฝากนะครับผม)
การศึกษาในอาสาสมัคร 870 คน โดยทำการติดตามผลเป็นเวลา 25 ปี พบว่าผู้ที่รับประทานวิตามินซี มากกว่า 83 mg ทุกวัน มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดลดลง 64 % เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่รับประทานวิตามินซี ต่ำกว่า 63 mg ต่อวัน
สุดท้ายฝากนิดหนึ่งครับสำหรับท่านผู้อ่านที่คิดจะซื้อ วิตามินซีให้ลูกหลานท่านได้รับประทาน คือเรื่อง ขนาดที่เหมาะสมในการใช้วิตามินซี
100-250 mg 1-2 ครั้งต่อวัน ใช้ในการรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
1-3 กรัมต่อวัน อาจช่วยลดระยะเวลาและความรุนแรงในการเป็นไข้หวัดได้
300-400 mg อาจช่วยในการลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้
80-110 mg ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่างๆได้
200 mg per 30 mg ของธาตุเหล็กอาจช่วยการดูดซึมของเหล็กได้
จบแล้วท่านผู้อ่านทุกท่าน รอติดตามบทความดีๆจาก ทีมงาน มะเร็งมดลูกในคราวหน้านะครับ
การศึกษาในอาสาสมัคร 870 คน โดยทำการติดตามผลเป็นเวลา 25 ปี พบว่าผู้ที่รับประทานวิตามินซี มากกว่า 83 mg ทุกวัน มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดลดลง 64 % เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่รับประทานวิตามินซี ต่ำกว่า 63 mg ต่อวัน
สุดท้ายฝากนิดหนึ่งครับสำหรับท่านผู้อ่านที่คิดจะซื้อ วิตามินซีให้ลูกหลานท่านได้รับประทาน คือเรื่อง ขนาดที่เหมาะสมในการใช้วิตามินซี
100-250 mg 1-2 ครั้งต่อวัน ใช้ในการรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
1-3 กรัมต่อวัน อาจช่วยลดระยะเวลาและความรุนแรงในการเป็นไข้หวัดได้
300-400 mg อาจช่วยในการลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้
80-110 mg ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่างๆได้
200 mg per 30 mg ของธาตุเหล็กอาจช่วยการดูดซึมของเหล็กได้
จบแล้วท่านผู้อ่านทุกท่าน รอติดตามบทความดีๆจาก ทีมงาน มะเร็งมดลูกในคราวหน้านะครับ
วิตามินซีนี่มีประโยชน์กับร่างกายเราจริงๆ นะ จริงๆ ยังมีสิ่งที่เราไม่รู้อีกมากเกี่ยวกับมัน ลองเข้าไปอ่านดู >> http://guru.sanook.com/9151/ เหมือนเป็นความรู้ใหม่ 555555555
ตอบลบ